|
เรื่องของหลังคาบ้าน มักไม่ค่อยเป็นประเด็นที่นำมาพูดถึงมากนัก บางคนลืมไปเลยด้วยซ้ำ ในตำราฮวงจุ้ยเอง ก็มีพูดถึงหลังคาเอาไว้ไม่มาก คนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไร ความจริงแล้ว หลังคาถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเป็นที่ปกป้องบ้านโดยตรง เป็นที่คุ้มแดดคุ้มฝน บ้านที่หลังคาชำรุด แตกร้าว หรือรั่ว ย่อมทำลายทรัพย์สินภายในบ้านได้ เพราะฉะนั้น เรื่องของหลังคาจึงต้องใส่ใจกันด้วยนะครับ ถ้ามองในเชิงของฮวงจุ้ยเอง มีพูดถึงเรื่องหลังคาเอาไว้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของรูปทรงของหลังคาเสียล่ะมากกว่า
1. หลังคาจั่วสามเหลี่ยม หลังคารูปทรงนี้ มักพบเห็นกันจนชินตา และเป็น แบบที่คนไทยรู้จักและนิยมกันมาก อย่างบ้านทรงไทยทั่วไป ลักษณะจะเป็นจั่วสามเหลี่ยม หลังคาจะเทออกสองข้าง ซ้าย-ขวา ปัจจุบันรูปทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่ว มักไม่ค่อยนิยมสร้างกันสักเท่าไหร่ เพราะเป็นลักษณะที่ผิดหลักฮวงจุ้ยโดยตรง ในทางฮวงจุ้ยพูดถึงรูปทรงสามเหลี่ยมเอาไว้ว่า เป็นรูปทรงอันตราย ดุจดั่งลูกศรที่แหลมคม พุ่งเข้าใส่สิ่งที่อยู่ตรงข้าม เพราะฉะนั้น บ้านที่ตรงข้ามมีหลังคาเป็นรูปจั่วสามเหลี่ยมพุ่งเข้ามา จึงถือว่า ฮวงจุ้ยเสีย คนในบ้านจะบาดเจ็บจากศรพิฆาตนี้ ส่งผลให้เกิดโรคร้าย เจ็บป่วย อุบัติเหตุ บางบ้านอาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี ฟังแล้วค่อนข้างน่ากลัวนะครับ ในตำราฮวงจุ้ยจะอธิบายไปในทางที่พูดถึง สิ่งที่มองไม่เห็น เป็นพลังลึกลับ ทำให้หลายคนเกิดความกลัวได้ง่าย แต่อย่าเพิ่งไปกังวลให้มาก เพราะผลกระทบคงไม่รุนแรงอย่าที่ว่าหรอกครับ ถ้ามองในเชิงตรรกะวิทยา ผลเสียน่าจะเป็นเรื่องของรูปทรงที่เป็นของแหลมคมมากกว่า
ทางจิตวิทยา กล่าวไว้ว่า ถ้ามองเห็นสิ่งที่แหลมคม อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จะส่งผลให้จิตใจของคนนั้น เกิดทัศนะคติในแง่ลบ ขาดความมั่นใจ หวาดระแวง และรู้สึกว่าชีวิตเต็มไปด้วยความเสี่ยง เสมือนมีคนเอาของมีคมมาจ่อไว้ตรงหน้า
นอกจากนี้ คำอธิบายในเชิงฮวงจุ้ยยังบอกอีกว่า การที่ทำให้หลังคาเทออกด้านข้างของบ้าน จะส่งผลให้สูญเสียทรัพย์อีกด้วย เหตุผลก็เพราะ กระแสชี่จะไหลออกด้านข้าง ไม่ตกลงหน้าบ้าน สังเกตง่ายๆเวลาฝนตก น้ำฝนซึ่งแทนความหมายของทรัพย์ จะไหลออกด้านข้างหมด ยกเว้นมีการทำรางน้ำรองรับเอาไว้ ก็จะเก็บทรัพย์ได้
2. หลังคาทรงปั้นหยา ปัจจุบันจะนิยมทำหลังคาทรงปั้นหยากันมาก เพราะ ลักษณะของหลังคาปั้นหยานั้น จะมีด้านเฉียง 4 ด้าน ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง ในทาง ฮวงจุ้ยบอกว่า กระแสชี่จะไหลได้รอบบ้าน ซึ่งหมายถึงทรัพย์ นั่นเอง

หลังคาทรงปั้นหยา น้ำจะไหลลงได้ทั้งสี่ด้านของบ้าน ในทางฮวงจุ้ยถือว่า ดี |
ประโยชน์ของหลังคาทรงปั้นหยา ยังเป็นตัวป้องกันแดดและฝนได้ทุกด้านของบ้านอีกด้วย ทำให้ตัวบ้านไม่ปะทะกับลมฝนและแสงแดดที่มากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้บ้านได้รับความเสียหายได้
3. หลังคาตัดสี่เหลี่ยมหรือหลังคาโค้ง บ้านที่สร้างในลักษณะหลังคาตัด ส่วน
ใหญ่จะเป็นบ้านตึก หรือรูปทรงบ้านที่ถูกออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะ อย่างบ้านสไตล์ฝรั่ง ซึ่งถ้ามองในเชิงฮวงจุ้ย ก็เป็นลักษณะที่ไม่ดีนัก เพราะไม่สามารถกักเก็บชี่ได้ เวลาฝนตก น้ำฝนก็จะไหลออกนอกบ้านหมด ยกเว้นจะทำเป็นดาดฟ้า เพื่อรองรับน้ำ ก็ถือว่าใช้ได้

บ้านที่มีหลังคาแบบโค้งหรือสี่เหลี่ยม จะเป็นบ้านที่กักเก็บทรัพย์ไว้ไม่ได้ ไม่ถูกลักษณะในทางฮวงจุ้ย |
4. หลังคาสองจั่ว บ้านที่มีการออกแบบให้มีหลังคา 2 จั่ว ในทางฮวง จุ้ยถือว่า เสียหาย เพราะกระแสชี่จะไหลกระทบกันเอง ทำให้บ้านได้รับความเสียหายทั้งคู่ น้ำฝนจะไหลมาปะทะกันระหว่างหลังคาจั่วทั้ง 2 หลัง นอกจากนี้ ในทางฮวงจุ้ยยังบอกอีกด้วยว่า บ้านลักษณะนี้จะไม่มีประธานที่ชัดเจน ส่งผลให้คนในบ้านมีความคิดแตกแยก และไม่ลงรอยกัน ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้าน จะดำเนินชีวิตแบบตัวใครตัวมัน ถ้าบ้านนั้น ทำเป็นเรือนหอ ก็จะส่งผลกระทบต่อชีวิตคู่ได้

การทำหลังคา 2 จั่ว กระแสชี่จะไหลมาปะทะกัน ไม่เป็นมงคลกับบ้าน |
ถ้าจำเป็นต้องทำหลังคา 2 จั่ว ควรออกแบบให้หลังคามีขนาดไม่เท่ากัน เพื่อกำหนดความเป็นประธานที่ชัดเจนว่าเป็นจั่วไหน (หลังคาที่ใหญ่กว่าคือประธาน) ซึ่งตัวเจ้าของ บ้านควรจะอยู่ภายใต้หลังคาที่เป็นประธาน ห้ามไปอยู่ด้านที่หลังคาเล็กกว่า เพราะถือเป็นตำแหน่งของบริวาร

2 จั่ว แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน บ่งบอกว่าส่วนไหนคือประธาน ถือว่าถูกต้อง |
หลังคา ให้ประโยชน์ในเรื่องของการป้องกันแสงแดด และฝน การออกแบบหลัง
คา จึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่าประเด็นอื่นๆ แต่ถ้าสามารถนำหลักของฮวงจุ้ยมาปรับใช้ได้ด้วย ก็จะเป็นการดีที่สุด เพราะจะได้ประโยชน์ทั้งการปกป้องตัวบ้าน และความเป็นมงคลกับบ้านอีกด้วย |
|
 |
|
|
|