|
คนส่วนใหญ่ที่จะซื้อบ้าน มักจะถามผมเสมอว่า ควรจะเลือกหลังไหนดี ที่อยู่แล้วรวยๆ ผมก็มักจะตอบว่า การซื้อบ้านไม่ใช่เลือกให้อยู่แล้วรวย แต่ควรจะเลือกให้อยู่แล้วสบาย ไม่เจ็บป่วย เดี๋ยวความร่ำรวยก็จะตามมาเองแหละ เพราะถ้าป่วยเสียแล้วจะเอาแรงที่ไหนไปหาเงินล่ะ บ้านจะต้องเน้นเรื่องการพักผ่อนเป็นหลักใหญ่
ถ้าถามหาความร่ำรวยต้องเน้นฮวงจุ้ยที่ทำงานเป็นหลักครับ ต้องแยกกันให้ออกนะครับ มันคนละเรื่องกัน
บ้านที่คนมักชอบเลือกกัน ก็คือ"บ้านหัวมุม" ซึ่งบ้านตำแหน่งนี้ก็มักจะขายหมดก่อนเสมอ เหตุผลส่วนใหญ่ก็มาจากตำแหน่งบ้านหัวมุม เป็นตำแหน่งที่สะดวกในการเข้าออก และที่สำคัญไม่ต้องติดกับบ้านหลังอื่นๆ ถ้าเลือกบ้านหลังกลาง จะต้องขนาบข้างกับบ้านหลังอื่น บ้านหัวมุม จะมีด้านที่เปิดถึง 2 ด้าน คือ ด้านหน้ากับด้านข้าง ทำให้บ้านได้รับแสง และอากาศได้ดีกว่าบ้านตำแหน่งอื่น
นั่นเป็นเหตุผลทั่วๆไป ซึ่งถือเป็นข้อดีของบ้านหัวมุม แต่ถ้าถามในเชิงฮวงจุ้ยแล้ว บ้านหัวมุม ถือเป็นตำแหน่งดาบสองคม คือ มีโอกาสทั้งดีและร้าย พอๆกัน อยู่ที่ว่าจะเลือกอยู่ตำแหน่งของหัวมุม และทิศทางตรงตำแหน่งนั้นเป็นทิศอะไร
วิธีเลือกบ้านที่อยู่ตรงหัวมุม ตามหลักฮวงจุ้ยจะให้พิจารณาในเรื่องของกระแสเป็นอันดับแรก กระแสที่วิ่งเข้ามาสู่ตัวบ้านเป็นกระแสเชือดเฉือน หรือกระแสที่โอบอุ้ม ซึ่งการวิเคราะห์ในเรื่องนี้ไม่ยากครับ พิจารณากระแสที่วิ่งเข้าเป็นหลัก โดยดูต้นทางของกระแสจากทางเข้าหมู่บ้านไปสู่ตำแหน่งบ้านที่เราจะเลือก
จากรูปตัวอย่างที่ยกมาให้ดู จะเห็นว่า บ้านหัวมุมในตำแหน่ง A และ B ถือว่าดี เพราะอยู่ในตำแหน่งที่กระแสโอบอุ้ม ส่วนบ้านในตำแหน่ง C และ D จะถูกกระแสที่วิ่งปะทะตัวบ้านในลักษณะเชือดเฉือน ถือว่าไม่ดี นี่เป็นหลักเบื้องต้นในการพิจารณาเลือกบ้านหัวมุม แต่ไม่ใช่ว่าจะพิจารณาแค่นี้ ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างนี้ ก็คือ จะต้องพิจารณาทิศทางของบ้านประกอบเข้าไปด้วย ทิศทางอะไร ก็ทิศทางลม ทิศทางแดด ไงครับ เรื่องนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับเมืองไทย ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ เมืองไทยเป็นเมืองร้อน เรื่องของลมแดดจะต้องพิจารณากันให้ดี บ้านที่ดีจะต้องเย็นสบาย แดดไม่ร้อนจนเกินไป อย่าลืมว่า บ้านหัวมุมจะมีด้านที่เปิดถึง 2 ด้าน ไม่เหมือนบ้านตำแหน่งอื่น เพราะฉะนั้น
ทิศจะเป็นตัวบอกว่า ด้านที่เปิดทั้ง 2 ด้านนั้นเป็นทิศอะไรถึงจะดี ทิศอะไรถึงจะเสีย
ถ้าดูจากรูปเดิมจะเห็นทิศทางของบ้านทั้ง 4 หลัง หลัง A หน้าบ้านหันทิศใต้ ด้านข้างเป็นทิศตะวันออก หลัง B หันหน้าบ้านทิศใต้เหมือนกัน แต่ด้านข้างหันทิศตะวันตก บ้าน C หน้าบ้านหันทิศเหนือ ด้านข้างเป็นทิศตะวันออก และบ้าน D หันหน้าทิศเหนือ แต่ด้านข้างเป็นทิศตะวันตก
ลองทายดูสิว่า ในจำนวน 4 หลังนี้ บ้านหลังไหนดีที่สุด
ถ้าใครตอบว่า เลือกหลัง A ถือว่าเข้าใจหลักฮวงจุ้ยครับ ทำไมหลัง A ถึงถือว่าดีที่สุด เหตุผลก็เพราะ บ้านได้องค์ประกอบของทิศ คือ หน้าบ้านได้ลมที่พัดมาจากทิศใต้ เกือบทั้งปี (ประมาณ 9 เดือน) ส่วนด้านข้างเป็นทิศตะวันออก ถือว่าได้ประโยชน์ในเรื่องของแสงแดดที่ไม่ร้อนจนเกินไป ตอนบ่ายบ้านจะร่ม เพราะบ้านทางทิศตะวันตกจะบังแสงให้ เห็นมั้ยครับ บ้านในทิศทางนี้จะได้ประโยชน์ในเรื่องของลมและแดด อย่างเต็มที่
แล้วบ้านหลังไหน ถือว่าแย่ที่สุดล่ะ
คำตอบก็คือ บ้านหลัง D เพราะบ้านหันทิศเหนือ ซึ่งไม่มีลมพัดเข้าหน้า
บ้าน ทิศเหนือเป็นทิศอับลม ปีหนึ่งจะมีพัดอยู่ประมาณ 3 เดือน ในฤดูหนาว ซึ่งในทางฮวงจุ้ยถือว่าไม่ดี เป็นลมที่นำโรคภัยมาให้ ส่วนด้านข้างยังเป็นทิศตะวันตก ซึ่งมีผลเสียในเรื่องของแสงแดดที่แผดกล้าในยามบ่าย บ้านรับแสงอย่างเต็มที่ ไม่มีบ้านอื่นช่วยบังแสงให้เลย
ส่วนบ้าน B และ C ถือว่า มีข้อดีข้อเสีย บ้าน B
ได้ประโยชน์ในเรื่องของลม
เพราะหน้าบ้านหันทิศใต้ แต่เสียในเรื่องของแสงแดดที่ร้อนในตอนบ่าย ส่วนบ้าน C เสียในเรื่องของลม เพราะหันหน้าบ้านทางทิศเหนือ แต่ได้ประโยชน์ในเรื่องของแสงแดด
มาถึงตรงนี้ คงจะมองออกกันแล้วนะครับ ว่าควรจะเลือกบ้านที่อยู่หลังมุมยังไง ไม่ยากหรอกครับ ลองนำไปใช้กันดู การรู้หลักฮวงจุ้ยก็จะได้ประโยชน์อย่างนี้แหละครับ อย่าลืมว่า บ้านหลังหนึ่งราคาเป็นล้าน ไม่ใช่บาทสองบาท ถ้าเลือกตำแหน่งผิดไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ |
|
|
|
|
|